ตั้งแต่ปี 2556 ถึง 2565 จีนแผ่นดินใหญ่มีอัตราการเติบโตต่อปีสูงสุดในสิทธิบัตรไมโคร LED ทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโต 37.5% เป็นอันดับ 1 ภูมิภาคสหภาพยุโรปตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยอัตราการเติบโต 10.0% ตามมาด้วยไต้หวัน เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอัตราการเติบโต 9.9%, 4.4% และ 4.1% ตามลำดับ
เมื่อพิจารณาจากจำนวนสิทธิบัตรทั้งหมด ณ ปี 2566 เกาหลีใต้ครองส่วนแบ่งสิทธิบัตร Micro LED สูงสุดทั่วโลกที่ 23.2% (1,567 รายการ) รองลงมาคือญี่ปุ่นที่ 20.1% (1,360 รายการ) ส่วนจีนแผ่นดินใหญ่มีสัดส่วน 18.0% (1,217 รายการ) เป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปอยู่ในอันดับที่ 4 และ 5 มีสัดส่วน 16.0% (1,080 รายการ) และ 11.0% (750 รายการ) ตามลำดับ
หลังจากปี 2563 คลื่นการลงทุนและการผลิตไมโคร LED จำนวนมากได้ก่อตัวขึ้นทั่วโลก โดยมีโครงการลงทุนประมาณ 70-80% ตั้งอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ หากรวมไต้หวันเข้าไปด้วย สัดส่วนนี้อาจสูงถึง 90%
ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตไมโครแอลอีดีทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ ผู้ผลิตแอลอีดีทั่วโลกจึงไม่สามารถแยกตัวออกจากผู้ผลิตจากจีนได้ ยกตัวอย่างเช่น ซัมซุง ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านจอแสดงผลไมโครแอลอีดีของเกาหลีใต้ ยังคงพึ่งพาแผงจอแสดงผลและบริษัทต้นน้ำที่เกี่ยวข้องกับไมโครแอลอีดีของไต้หวัน ความร่วมมือระหว่างซัมซุงกับ AU Optronics ของไต้หวันในสายผลิตภัณฑ์ THE WALL ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี ส่วน Leyard ของจีนแผ่นดินใหญ่ก็ให้การสนับสนุนและความร่วมมือในห่วงโซ่อุตสาหกรรมต้นน้ำแก่บริษัทแอลจีของเกาหลีใต้ เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท Audio Gallery ของเกาหลีใต้ และบริษัท Goldmund ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์โฮมเธียเตอร์ไมโครแอลอีดีขนาด 145 นิ้ว และ 163 นิ้วรุ่นใหม่ โดยมี Chuangxian Optoelectronics ของเซินเจิ้นเป็นพันธมิตรต้นน้ำ
จะเห็นได้ว่าแนวโน้มการจัดอันดับสิทธิบัตรไมโคร LED ทั่วโลก แนวโน้มการเติบโตสูงของจำนวนสิทธิบัตรไมโคร LED ของจีน และการลงทุนขนาดใหญ่และความเป็นผู้นำของไมโคร LED ของจีนในด้านอุตสาหกรรมและการผลิต ล้วนมีความสอดคล้องกัน ขณะเดียวกัน หากสิทธิบัตรในอุตสาหกรรมไมโคร LED ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2567 ปริมาณสิทธิบัตรไมโคร LED ทั้งหมดและปัจจุบันในจีนแผ่นดินใหญ่อาจแซงหน้าเกาหลีใต้ และกลายเป็นประเทศและภูมิภาคที่มีสิทธิบัตรไมโคร LED มากที่สุดในโลก
เวลาโพสต์: 02-08-2024